วิธีสมัคร TikTok Shop พร้อม 8 เทคนิคขายของยังไงให้ปัง
TikTok เป็นอีกหนึ่งโซเชียลมีเดียที่มีพ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์ใช้เป็นช่องทางสร้างรายได้ และการขายของออนไลน์ยังคงเป็นกระแสที่ยังไม่ตกไปง่าย ๆ ตอนนี้ได้เปิดตัวฟีเจอร์ TikTok Shop มารองรับตลาด E - Marketpalce ให้พ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์ใช้บริการขายของในติ๊กตอกเรียบร้อยแล้ว ใครอยากมีช่องทางขายการเพิ่ม มาได้ทางเลย! พิมเพลินมีวิธีเปิดร้านใน TikTok Shop พร้อมกับเทคนิคการของในติ๊กตอกให้ปังตั้งแต่ก้าวแรกมาฝากกันค่ะ!
TikTok Shop คือ
TikTok Shop คือ ระบบขายสินค้าออนไลน์บน TikTok ที่สร้างมาให้พ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์ที่ชอบทำคลิปวิดีโอขายของบน TikTok สามารถจัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับสินค้าได้ในที่เดียว ตั้งแต่ สินค้า สต๊อก การจัดส่ง จนถึงระบบชำระเงิน ลูกค้าสามารถช้อปปิ้งสินค้าที่ตะกร้าช้อปปิ้งที่หน้าโปรไฟล์ร้านค้าของคุณได้เลยโดยไม่ต้องสลับแอปฯ ไปส่งข้อความเพื่อสั่งซื้อในแพลตฟอร์มอื่น
ข้อควรรู้ก่อนเปิดร้านใน TikTok Shop
ผู้ขายใน TikTok Shop จะต้องเป็นคนไทย และจดทะเบียนในประเทศไทย
ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ต้องให้ข้อมูลรายละเอียดที่ถูกต้อง
ข้อมูลรายละเอียดการเปิดร้านบน TikTok Shop จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้
การตั้งชื่อร้านจะต้องสอดคล้องกับสินค้าที่ขาย
ห้ามตั้งชื่อร้านที่มีคำว่า TikTok
วิธีสมัคร TikTok Shop
จะสมัคร TikTok Shop ไว้ขายของ พ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์จำเป็นต้องมีไอดี TikTok กันเสียก่อนนะคะ เพราะจะทำให้การสมัครง่ายขึ้น
เข้าไปที่ลิงก์ สมัคร TikTok Shop หรือ แอปพลิเคชัน TikTok Seller
ลงทะเบียน TikTok Shop (ในส่วนนี้ ใครมีช่อง TikTok อยู่ก่อนหน้านี้แล้วก็ลงทะเบียนด้วยบัญชี TikTok ได้เลย แต่ถ้ายังไม่มีให้เลือกลงทะเบียนด้วยโทรศัพท์และอีเมลนะคะ)
อัปโหลดเอกสารเพื่อยืนยันตัวตน - บุคคลธรรมดาใช้เพียงบัตรประชาชนในการยืนยันตัวตน - นิติบุคคลต้องใช้เอกสารจดทะเบียนบริษัทมาประกอบการสมัคร เพื่อแสดงถึงการมีอยู่ของร้านค้า
ข้อสังเกต: ก่อนส่งเอกสารเพื่อยืนยันตัวตน อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลและเงื่อนไขให้ครบถ้วนก่อนกดยอมรับและยืนยัน เพราะข้อมูลที่ส่งไปจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดย TikTok Shop จะใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารไม่เกิน 48 ชม.ตั้งค่าร้านค้าและลงสินค้า กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ทั้งรายละเอียดร้านค้า ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ อีเมล รายละเอียดสินค้าและหมวดหมู่สินค้า เมื่อกรอกครบถ้วนแล้ว ให้กดเผยแพร่ (ซึ่งตรงนี้ก็ต้องรอเวลาตรวจสอบอีก 48 ชม.)
เท่านี้เราก็สามารถเปิดร้านบน TikTok Shop ได้แล้ว! คราวนี้เวลาที่พ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์โพสต์คลิปลงใน TikTok หากว่ามีสินค้าที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถ Tag สินค้า เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจกดสั่งได้เลยค่าา
TikTok Shop เก็บค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมเท่าไหร่?
อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อย ๆ คือ “ขายของใน TikTok เสียค่าอะไรบ้าง?” วันที่ 1 ธ.ค. 2565 เป็นต้นไป TikTok Shop จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น (Commission fee) จำนวน 4% ของ (ยอดรวมหลังจากส่วนลดของผู้ขาย - ยอดคืนเงินรวมหลังจากส่วนลดของผู้ขาย) โดยรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และเก็บค่าธรรมเนียม (Transaction free) เป็นจำนวน 3% ของมูลค่าคำสั่งซื้อ หรือขั้นต่ำ 12 บาทต่อคำสั่งซื้อค่ะ
สามารถเข้าไปดูตัวอย่างการคำนวณค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมได้ที่ TikTok Shop Academy
สินค้าห้ามขายใน TikTok Shop
รู้วิธีทำ TikTok Shop แล้ว คราวนี้ก็ต้อมมาทราบข้อควรระวังที่พ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์ด้วยค่ะ สินค้าที่ทาง TikTok Shop ไม่อนุญาตให้จำหน่ายบนแพลตฟอร์ม ซึ่งมีดังต่อไปนี้ค่ะ
สินค้าเกี่ยวกับอาวุธทุกรูป เช่น ปืน กระสุน อุปกรณ์ทางการทหาร ปืนจำลอง ฯลฯ
สินค้าที่เป็นอันตราย เช่น วัสดุระเบิด ดอกไม้ไฟ สารพิษและสารเคมีที่เป็นอันตราย รวมถึงคู่มือการสอน
อวัยวะหรือชิ้นส่วนของมนุษย์
สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สัตว์ป่าและพืชที่ได้รับการคุ้มครอง
สินค้าและบริการสำหรับผู้ใหญ่
สารเสพติดและอุปกรณ์ในการเสพยา
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เหรียญ เงินสด บัตรของขวัญ และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมและไม่ได้รับอนุญาต
สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์
บัตรประชาชน พาสปอร์ต
เทคนิค - วิธีขายของใน TikTok Shop ให้ปัง
1.สร้างตัวตนด้วยคลิปวิดีโอสั้น ๆ
อย่างที่เราทราบกันค่ะว่า TikTok Shop คือหนึ่งในฟีเจอร์ของ TikTok แพลตฟอร์มสร้างคลิปวิดีโอสั้น ๆ ตามกระแสในขณะนั้น การทำคลิปจะทำให้สินค้าและแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จัก ไม่ว่าจะคลิปแนะนำสินค้า การใช้งาน หรือแม้แต่รีวิวจากผู้ใช้งานจริง วิธีนี้จะช่วยทำให้ลูกค้าบน TikTok มีความมั่นใจในแบรนด์และทำให้เกิดการอยากซื้อสินค้ายิ่งขึ้นค่ะ
2. ติด HASHTAG (แฮชแท็ก) บนโพสต์
แม้ว่าตอนนี้ในหน้าสินค้า บน TikTok Shop จะยังไม่สามารถติด Hashtag ได้ แต่เราสามารถแก้เกมได้ด้วย “ติด Hashtag บนหน้าโพสต์ฝั่งวิดีโอ” ค่ะ เพราะ Hashtag เหมือนคำค้นหาหลักที่ลูกค้าใช้จะเป็น Keyword ในการค้นหาสิ่งที่เขาต้องการ ถ้าเราติด Hashtag เข้าไปด้วย ก็จะทำให้วิดีโอคอนเทนต์บน TikTok ร้านค้าของเราปรากฏไปยังหน้าค้นหาของลูกค้าค่ะ
3. ใช้เพลงที่กำลังนิยมใน TikTok
อีกหนึ่งท่าไม้ตายที่จะทำให้วิดีโอสินค้าของเราถูกแนะนำในหน้า “For you” ลองใช้เพลงที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้นดูค่ะ เพราะจะช่วยทำให้คนเข้าถึงวิดีโอคอนเทนต์มากขึ้น เพราะผู้ใช้งานจะชอบฟัง เพลงฮิตในช่วงนั้น และมักจะกดเลือกดูวิดีโอจากเพลงเหล่านั้นมากขึ้นด้วยค่ะ
4. ให้ Affiliate ช่วยขายสินค้าใน TikTok Shop ของเรา
เรียกง่าย ๆ ก็คือให้เหล่า Creators หรือ ใครก็ตามที่มีผู้ติดตามช่อง TikTok เยอะ ๆ นำสินค้าบน TikTok Shop ของเราไปรีวิว ช่วยโปรโมทให้นั่นเอง ตรงนี้จะยิ่งทำให้สินค้าของเรามีโอกาสขายได้ค่ะ เพียงแต่เราจะต้องแบ่งค่าคอมมิชชันให้กับคนที่ช่วยเราขายสินค้าเท่านั้นเองค่ะ หรือเราจะไปนำสินค้าของคนอื่นมารีวิวก็ได้เหมือนกันนะคะ ถือว่าเป็นอีกวิธีขายของใน TikTok แบบไม่ต้องลงทุนเลย
5. เข้าร่วมแคมเปญบ่อย ๆ
เพิ่มออเดอร์ให้ร้านค้าง่าย ๆ ด้วยการเข้าร่วมแคมเปญของ TikTok Shop บ่อย ๆ จะช่วยเรามียอดขายที่เพิ่มขึ้น และยังเป็นสร้างความรู้จักให้กับร้านค้าของเราในระยะยาวอีกด้วยนะคะ
6. แจกคูปอง โค้ดส่วนลด
ร้านค้าสามารถสร้างคูปอง แจกโค้ดส่วนลด จัดโปรโมชัน กระตุ้นยอดขายได้เองค่ะ แต่ในส่วนนี้ร้านค้าต้องเป็นผู้รับส่วนต่างของราคาที่ลดเองนะคะ
7. ยิงแอด TikTok (TikTok Ads) เพิ่มยอดขาย
ถ้าต้องการเพิ่มยอดขายของในติ๊กตอกได้ด้วยตัวเอง ให้นักช้อปบนโซเชียลเห็นร้านค้าของเรามากขึ้น เลือกกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณได้ตามต้องการ ก็ต้องใช้วิธียิงแอด TikTok นี่แหละค่ะ วิธีนี้จะเป็นการช่วยโปรโมทคอนเทนต์สินค้าบน TikTok ให้ได้ลูกค้ารายใหม่ ๆ และตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้นค่ะ
8. ศึกษาหาความรู้ใน TikTok Shop Seller University
ศูนย์การเรียนรู้ของแม่ค้าออนไลน์ใน TikTok ในนี้จะมีคำแนะนำต่าง ๆ ในการเปิดร้าน ให้กับพ่อค้า - แม่ค้ามือใหม่และมีโปร และยังรวมไปถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ในการเปิดร้านค้าบน TikTok Shop ให้ได้ไปอัปเดตความรู้กันอยู่บ่อย ๆ ค่ะ
เปิดร้านใน TikTok Shop ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยนะคะ เพียงแค่คุณรอเวลาให้ทาง TikTok ได้ตรวจสอบเอกสารกันสักหน่อย เท่านี้คุณพ่อค้า - แม่ค้าออนไลน์ก็จะมีอีกหนึ่งช่องทางการขายสินค้าแล้วค่ะ
หากคุณสนใจใช้งาน Page365 คุณสามารถ สมัครใช้งานฟรี
หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เริ่มต้นกับ Page365 หรือ ทำไมเราถึงฟรี?