4 วิธีที่ทำให้คุณเป็นหนึ่งด้านขายสินค้าพรีออเดอร์

ขายออนไลน์แบบพรีออเดอร์ หลายคนว่ากันว่าเป็นการจับเสือมือเปล่า ขายได้ง่าย มีกำไรเยอะด้วย น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ? หากอยากเริ่มต้นขายสินค้าพรีออเดอร์บ้าง ต้องเริ่มต้นอย่างไร มีวิธีการเตรียมตัวอะไรบ้าง และบริหารจัดการร้านได้ด้วยเทคนิคไหนได้บ้าง วันนี้พิมเพลินได้รวบรวมข้อมูลวิธีการเปิดร้านพรีออเดอร์มาให้แล้วค่ะ

เริ่มต้นขายแบบพรีออเดอร์ (Pre-order)
พรีออเดอร์ (Pre-Order) คือการสั่งซื้อสินค้าหรือจองไว้ก่อน ไม่ต้องสต็อก หากอยากขายสินค้าพรีออเดอร์ก่อนอื่นลองเริ่มต้นทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้นะคะ
- หาสินค้าที่จะขาย : สินค้ามีเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ภายในครัวเรือน เลือกขายตามความถนัด ความสนใจได้เลยค่ะ เมื่อได้สินค้าแล้วก็ต้องหากลุ่มเป้าหมายของสินค้า ว่าเป็นใคร มีกำลังซื้อประมาณไหน ในตลาดขายสินค้าที่จะขายอยู่ที่ราคาเท่าไหร่บ้าง สินค้าจะขายได้หรือไม่ได้เนี่ย ขึ้นอยู่กับราคาและกลุ่มเป้าหมายเลยค่ะ สินค้าดีแต่ไม่มีคนใช้ ก็ขายไม่ได้นะคะ
- หาเว็บไซต์แหล่งขายสินค้า : เมื่อได้สินค้าที่จะขายแล้ว ต่อไปก็ต้องตามหาแหล่งขายสินค้าหรือแหล่งผลิดสินค้าที่คุณภาพดี และราคาถูก นั้นขายอยู่ในประเทศอะไรบ้าง ก็ต้องท่องเว็บไซต์เปรียบเทียบหลาย ๆ เว็บเพื่อช่วยเลือกแหล่งสินค้าที่ดีที่สุดนะคะ แต่ละประเทศก็จะมีเว็บดังที่เหล่าแม่ค้าจะเข้าไปสั่งกัน ประเทศจีนจะเป็นเว็บ Taobao 1668.com ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเว็บ rakuten.com เป็นต้นค่ะ เว็บไหนดีในการพรีออเดอร์ คงต้องทดสอบด้วยตัวเองแล้วค่ะ :P
- หาบริษัทรับนำเข้าสินค้า : หาแหล่งขายส่งได้แล้ว เราก็ต้องหาผู้นำเข้าให้ค่ะ บริษัทรับนำเข้าหรือที่เราเรียกกันว่า Shipping ก็จะจัดการนำเข้าให้ จะมีหลายบริหารทั้งรับนำเข้า หรือสั่งสินค้าให้ด้วย ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามบริการที่เราเลือกค่ะ การจัดส่งมีทั้งผ่านเครื่องบิน รถยนต์ หรือทางเรือ เวลาจัดส่งส่วนใหญ่จะใช้เวลา 10 - 20 วัน ขึ้นอยู่กับประเทศและพาหนะในการจัดส่งค่ะ สำคัญมากที่สุดในการขายแบบพรีออเดอร์คือระยะเวลาจัดส่ง เพราะเราต้องแจ้งลูกค้าว่าจะได้รับสินค้าภายในกี่วัน หากจัดส่งนานผิดปกติก็จะทำให้เสียลูกค้าไปได้
ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนเปิดร้านพรีออเดอร์ค่ะ หากคุณทำครบทุกข้อแล้วก็เริ่มข้อถัดไปได้เลยนะคะ
วิธีรับชำระเงิน
ช่องทางการชำระที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่แสนน่ารัก ไม่ว่าจะเป็นชำระแบบโอนเงินผ่านธนาคาร หรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต และสำคัญที่สุดคือต้องจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องชำระให้ชัดเจนทุกครั้ง ต้องชำระภายในกี่วันเพื่อเป็นการจองสินค้า ซึ่งการชำระค่าสินค้าส่วนใหญ่ของร้านรับพรีออเดอร์จะมี 2 แบบดังต่อไปนี้ค่ะ
- ลูกค้าชำระเงินก่อน : ลูกค้าชำระเงินหรือมัดจำไว้ก่อนแม่ค้าค่อยกดสั่งสินค้า อาจจะแบ่งชำระเป็นจ่ายก่อน 50% สินค้ามาถึงเมืองไทยแล้วชำระส่วนที่เหลือ หรือชำระเต็มครั้งเดียวเลยก็ได้ค่ะ
- ลูกค้าชำระหลังสินค้าเข้า : ลูกค้าสั่งจองสินค้าไว้ก่อนแล้วแม่ค้ากดสั่ง นำเข้ามาถึงเมืองไทยแล้ว จึงเรียกเก็บค่าสินค้าจากลูกค้า
ทั้ง 2 วิธีชำระนี้จะแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แม่ค้าจะเลือกใช้วิธีแรกคือให้ลูกค้าชำระก่อนบางส่วนเพื่อเป็นการจองสินค้าไว้ เพราะซื้อแบบพรีออเดอร์ ต้องใช้เวลาสั่งสินค้าและนำเข้ามา ใช้เวลาหลายวันในการขนส่ง เมื่อสินค้ามาถึงไทยแล้วลูกค้าอาจจะไม่อยากได้สินค้าที่สั่ง ไม่ต้องการใช้แล้ว ดังนั้นจึงแนะนำเป็นวิธีแรกคือเรียกชำระบางส่วนของสินค้าก่อนจะกดสั่ง เพื่อไม่ให้เราเป็นฝ่ายแบกรับค่าสินค้าและค่าบริการต่าง ๆ ค่ะ เดี๋ยวขาดทุนไม่รู้ตัวนะคะ
กำหนดรอบเปิด-ปิดพรีออเดอร์
เทคนิคบริหารร้านพรีออเดอร์คือการกำหนดรอบเปิด-ปิดพรีออเดอร์ค่ะ จะช่วยจัดการการสั่งซื้อสินค้าให้เป็นระบบมากขึ้น มีเวลาเปิด-ปิดรอบ และแจ้งลูกค้าได้ชัดเจนว่าสินค้าของลูกค้าที่สั่งอยู่ในรอบสินค้าไหน สินค้าจะถึงไทยอีกประมาณกี่วัน โดยการแจ้งรอบต้องแจ้งให้ชัดเจน ครบถ้วน ผ่านช่องทางที่ติดต่อลูกค้าค่ะ บริหารลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วยการติดแท็กตามรอบสั่งซื้อให้กับลูกค้าเพื่อลดความผิดพลาด อำนวยความสะดวกในการทำงานให้แม่ค้าด้วยค่ะ
วิธีรับออเดอร์จะรับการสั่งซื้อผ่านฟอร์มสั่งซื้อสินค้า หรือออกเป็นบิลออนไลน์ให้ลูกค้าก็ได้ค่ะ อีกเทคนิคจัดการการสั่งซื้อคือสร้างสินค้าในสต็อกแล้วเพิ่มสินค้าลงบิลให้ลูกค้าเพื่อช่วยให้นับจำนวนสินค้าก่อนสั่งสินค้าได้แม่นยำขึ้น
จัดการสินค้า
เมื่อสินค้าที่สั่งนำเข้าประเทศไทยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าที่น่ารักค่ะ การจัดส่งสินค้าจะมี 2 แบบค่ะ
- ส่งสินค้าแบบนัดรับ : เหมาะกับร้านที่มีหน้าร้าน หรือบ้านลูกค้ากับแม่ค้าอยู่ใกล้เคียงกันค่ะ
- ส่งสินค้าแบบผ่านบริษัทขนส่ง : หากลูกค้าอยู่ไกลก็ต้องใช้บริการขนส่งในการจัดส่งนะคะ แม่ค้าต้องแพ็คสินค้าให้ดีเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการจัดส่ง และเลือกขนส่งที่จะนำส่งพัสดุค่ะ โดยรูปแบบการส่งก็จะมีทั้งแบบลงทะเบียนหรือการส่งด่วนพิเศษ ส่งเร็ว ส่งง่าย จ่ายถูกลงกับ Page365 Express ถึงมือลูกค้าทันใจ ระบบออกรหัสพัสดุและส่งรหัสให้ลูกค้าอัตโนมัติเพียงแค่ปรินท์ แปะ นำส่ง ช่วยลดเวลาจัดการได้เยอะ :)
ขั้นตอนสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของการขายสินค้าออนไลน์ หลังจากนำส่งก็ยังต้องบริการลูกค้าหลังการขายด้วยนะคะ เป็นวิธีมัดใจลูกค้าให้อยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้นค่ะ ลูกค้าเก่าซื้อซ้ำได้นะคะ จะได้ไม่ต้องคอยมองหาแต่ลูกค้าใหม่ วิธีนี้ถือเป็นการรักษาฐานลูกค้าที่เยี่ยมมากค่ะ และยังทำให้ร้านขยายใหญ่ขึ้นได้อีกในอนาคต เพราะการแนะนำแบบปากต่อปากยังใช้ได้ในทุกยุคของการขายนะคะ

และนี้คือวิธีการเปิดขายพรีออเดอร์ ว่าจะเปิดขายนั้นจะเลือกพรีออเดอร์แบบไหนดี มีขั้นตอนอะไรบ้างที่แม่ค้าจะต้องทราบก่อนเปิดรับพรีออเดอร์ หากยังไม่มั่นใจลองกดสั่งมาเพื่อทดสอบเวลาในการเตรียมสินค้า จัดส่งมาจนถึงไทย ค่า Shipping เพื่อคำนวณระยะเวลาในการเปิด-ปิดรอบการสั่งและราคาสินค้าได้นะคะ ลองศึกษาเส้นทางความสำเร็จในการขายพรีออเดอร์กับ 4K Phonecase ได้นะคะ น้องพิมเพลินขอเป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ค้าทุกท่านค่ะ

หากคุณสนใจใช้งาน Page365 คุณสามารถ สมัครใช้งานฟรี

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เริ่มต้นกับ Page365 หรือ ทำไมเราถึงฟรี?

บทความยอดนิยม