ขายของบน Facebook แล้วเพจโดนบล็อก ทำไงดี ??
เพจปลิว💨 ฝันร้ายของคน ขายของออนไลน์ เลยล่ะ ข้อมูลหายเกลี้ยงจ้า ทั้งข้อมูลแชท ออเดอร์ บลา ๆ ไหนจะลูกค้าที่สั่งของแล้วอีกล่ะ 😫 แต่เชื่อเถอะค่ะ อยู่ดี ๆ เฟสบุ๊คไม่ปิดเพจเราแบบมั่วซั่วแน่นอน มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นบนเพจเราแน่ ๆ ลองเช็คดูนะคะว่าเพจของคุณเข้าข่ายตามหัวข้อเหล่านี้หรือไม่
1. จำนวนไลค์มากขึ้นแบบผิดหูผิดตา ในระยะเวลาสั้นๆ
ข้อนี้สำคัญมากนะคะ เข้าใจว่าการสร้างเพจ หรือทำเพจขึ้นมาขายของก็ย่อมอยากได้ยอดไลค์จำนวนมาก เพราะนั่นหมายถึงการที่เพจจะเป็นที่รู้จักมากขึ้นนั่นเอง แต่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ทุกคนต้องระวังการเพิ่มยอดไลค์ไว้นิดนึงนะคะ หากยอดไลค์ของคุณเพิ่มขึ้น แต่มันดูไม่สอดคล้องกับ Activity ของเพจเอาซะเลย กล่าวคือเพจไม่มีการอัพเดต ไม่มีการเคลื่อนไหว Facebook ก็อาจจะจับตาดูคุณ แล้วตั้งคำถามว่ายอดไลค์เหล่านั้นมาจากไหน ซึ่งแน่นอนว่า Facebook ต้องฟันธงเลยว่าการเพิ่มยอดไลค์แบบนี้ อาจมาจากการปั๊มไลค์ ซึ่งมันดูไม่ธรรมชาตินั่นเองค่ะ
2. ค้าขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หรือโพสต์ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
ส่วนข้อนี้พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์หลายคนน่าจะพอทราบอยู่แล้ว แต่ก็มีหลายคนที่ไม่มีความรู้ในเรื่องของลิขสิทธิ์สินค้า อาจจะนำสินค้าเหล่านี้มาขาย สร้างเพจโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีซะก่อน ซึ่งปกติ Facebook จะรับรู้ข้อมูลนี้ผ่านการ Report จากกลุ่มคนต่างๆ แล้วถึงตรวจสอบและบล็อกเพจนั่นเองค่ะ
3. แชร์ลิงค์ รูป หรือวีดีโอที่มีลิขสิทธิ์
หากเพจของคุณแชร์อะไรก็ตามที่มีลิขสิทธิ์ มีที่มาจากแหล่งอื่น แล้วนำมาแชร์ในเชิงพาณิชย์ หรือในเชิงโฆษณาต่าง ๆ ในกรณีนี้ทาง Facebook จะทำการลบสิ่งที่แชร์ออกไปก่อนโดยไม่มีการบล็อคเพจแต่อย่างใด แต่จะมีการแจ้งเตือนในหน้าแอดมินเพจ แต่ถ้าหากเพจนั้นยังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่ล่ะก็ เพจก็จะถูกปิดในที่สุดค่ะ
4. สร้างความแตกแยกให้สังคม
แน่นอนว่าอะไรที่เป็นเรื่องในสังคม หรือเป็นเรื่องของคนหมู่มาก มันจะค่อนข้าง sensitive ไปซักหน่อย เพราะงั้นการแชร์รูปภาพ หรือข้อความที่สร้างความแตกแยกให้กับสังคม เพจของคุณก็ไม่สามารถรอดจากสายตา facebook ไปได้ ด้วยการ report จากผู้ใช้คนอื่นๆนั่นเอง และถ้า facebook ตรวจสอบแล้วว่าเพจสร้างความแตกแยกจริง ก็เตรียมโบกมือลาได้เลยค่ะ
5. ทำโปรโมชั่นแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ
ใช่แล้วค่ะ การทำโปรโมชั่นที่ไม่เป็นไปตามกฎของ Facebook เพจของคุณก็อาจจะปลิวได้เหมือนกันนะ ซึ่งจริงๆแล้วการแจกของรางวัล เพื่อแลกไลค์ที่แทบทุกเพจนั้นทำกันอยู่ถือว่าละเมิดกฎ Facebook ด้วยนั่นเองค่ะ
6. เลือกแอดมินเพจที่เคยเป็นจ้าของเพจที่โดนบล็อกมาก่อน
ข้อนี้เชื่อว่า พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า คนที่จะมาทำหน้าที่แอดมินเพจ ต้องไม่มีประวัติเคยเป็นเจ้าของเพจที่โดนบล็อกมาก่อนนะคะ เพราะลองคิดดูว่าหากว่าแอดมินคนนั้นเคยดูแลเพจจนโดนบล็อกมาแล้ว ซึ่งอาจจะด้วยการปั๊มไลค์ หรืออะไรก็ตามที่ Facebook เค้ามองแล้วว่ามันไม่โอเค เพจของคุณเองก็อาจจะมีชะตากรรมเดียวกับเพจเหล่านั้นก็ได้นะ
7. เผลอส่งความซ้ำๆกัน จนเหมือนการส่งข้อความ spam
ข้อนี้ก็ต้องระวังค่ะ เพราะการส่งข้อความบรอดแคสต์หาลูกค้า โดยใช้ข้อความเดิมซ้ำๆกันจำนวนมาก Facebook จะมองว่าข้อความเหล่านี้เป็นข้อความ Spam ได้ โดยเฉพาะยิ่งถ้ามีลิ้งค์ URL ส่งต่อไปลิ้งค์ภายนอกด้วยแล้ว Facebook ยิ่งมองว่าเป็นข้อความ Spam แน่นอน หรือถ้าส่งบรอดแคสต์หาคนมั่วซั่ว ทำให้ชาวบ้านรำคาญ ก็อาจโดน report ซึ่งป็นสาเหตุที่ทำให้เพจโดนบล็อกเช่นกันค่ะ
8. ส่งข้อความบรอดแคสต์โดยละเมิดนโยบายของทาง Facebook
นอกจากการส่งข้อความที่มีเนื้อหาเหมือนเป็นการ spam แล้วพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้การบรอดแคสต์ของเรานั้นผิดนโยบายที่ทาง Facebook วางไว้ โดยทาง Facebook อนุญาตให้สามารถส่งข้อความประเภทใดก็ได้ รวมถึงข้อความที่มีเนื้อหาการขาย ได้ภายใน 24 ชม. หลังจากที่ลูกค้าเริ่มต้นบทสนทนากับเราเท่านั้น (24-hour Standard Messaging Window) ซึ่งถ้าหากเราทำการละเมิดอาจจะเกิดผลเสียเกิดขึ้นคือ Facebook อาจบล็อกการส่งข้อความบรอดแคสต์ หากร้านค้าต้องการส่งข้อความหาลูกค้าได้นอกระยะเวลา 24 ชม. Page365 นำวิธีป้องกันมาฝาก เลื่อนลงไปอ่านด้านล่างได้เลยค่ะ"
รู้ถึงสาเหตุที่จะทำให้เพจโดนบล็อกกันไปแล้ว แต่ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นล่ะก็ มารู้จักวิธีป้องกันกันเลยค่าาา ^^
1. การเพิ่มไลค์จะต้องคำนึงถึงปริมาณที่จะเพิ่มต้องให้เพิ่มแบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้นเจ้าของเพจจะต้องควบคุมจำนวนไลค์ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันให้เหมาะสมที่สุด ไลค์ที่ได้จากการเพิ่มไลค์จะต้องไม่มากจนผิดสังเกต และจะต้องมี activity ในเพจเพื่อรองรับจำนวนไลค์ค่ะ
2. ก่อนนำสินค้ามาขายบน Facebook จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบว่า เป็นสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะแน่นอนว่าการค้าขายบนโลกออนไลน์ ค่อนข้างเปิดกว้าง เพราะฉะนั้นการทำตามกฎหมายย่อมเป็นเรื่องที่จะเซฟตัวคุณ และเพจของคุณได้เป็นอย่างดีค่ะ
3. หลีกเลี่ยงการแชร์ลิงค์ หรือรูปภาพที่มีลิขสิทธิ์จะดีที่สุด แต่ถ้าหากจำเป็นก็ควรให้เครดิตแหล่งที่มาให้ชัดเจน หรือแชร์โดยไม่หวังผลประโยชน์ทางเชิงพาณิชย์ ก็จะช่วยป้องกันการโดนแบนได้ค่ะ
4. จัดทำโปรโมชั่นตามที่ Facebook กำหนด หรือยอมรับได้ นั่นคือ
ต้องมีระยะเวลาสิ้นสุด
ต้องระบุอายุเพศไว้อย่างชัดเจน
รางวัลต้องมีจำนวนจำกัด ต้องเป็นของไม่ผิดกฎหมาย ต้องไม่เป็นสินค้าต้องห้าม
ของรางวัลจะต้องใช้แจกเพื่อทดสอบตลาด หรือโปรโมทสินค้า แต่ห้ามพ่วงโปรโมทเว็บไซต์หรือช่องทางติดต่ออื่นๆ
ของรางวัลต้องห้ามให้ข้อเสนอว่าต้องกดไลค์เพจก่อน
5. ก่อนจะเลือกใครมาทำหน้าที่แอดมินเพจ ควรตรวจสอบประวัติให้ดีซะก่อน อย่างที่กล่าวไว้ว่า ต้องไม่เคยเป็นแอดมิน หรือเจ้าของเพจที่โดนบล็อกมาแล้ว ซึ่งทางที่ดีที่สุด อย่าให้ใครก็ไม่รู้มาดูแลเพจของคุณ นอกจากคุณนะคะ เพราะป้องกันการทำผิดกฎต่างๆ และการปั๊มไลค์ที่ถือว่าละเมิดกฏของ Facebook อีกด้วย
6. แต่ถ้าจำเป็นต้องบรอดแคสต์ข้อความให้ลูกค้า แต่กลัวโดนมองว่าเป็นข้อความ Spam ล่ะก็ ลองทำตามนี้ดูค่ะ
เวลาส่งข้อความโปรโมชั่น หรือต้องส่งข้อความซ้ำๆเดิมๆให้ลูกค้า ก็อย่าส่งครั้งละเยอะเกินไป ให้แบ่งส่ง เช่น รอบนี้ส่ง 20 คน พักสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยกลับมาส่งใหม่
ใช้ฟีเจอร์บรอดแคสต์ข้อความแบบเสียเงินของทาง facebook ซึ่งฟีเจอร์นี้ Facebook กำลังอยู่ในช่วงทดลอง ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มเปิดให้บางเพจใช้ฟรีกันอยู่ แต่แน่นอนว่าในอนาคตต้องเสียเงินเหมือนเวลาลง Facebook Ads แน่นอน
ส่งข้อความหาคนที่คิดว่าเป็นกลุ่มลูกค้าเราจริงๆเท่านั้น เพื่อป้องกันการไปสร้างความรำคาญให้คนอื่น
บรอดแคสต์ผ่านแพลตฟอร์มอื่น เช่น LINE OA ที่มีฟีเจอร์บรอดแคสต์ให้ใช้อยู่แล้วจะดีที่สุดค่ะ
7. พ่อค้าแม่ค้าอาจสงสัยว่าหากไม่สามารถส่งข้อความขายสินค้าหรือโปรโมชันไปหาลูกค้าได้เกินระยะเวลา 24 ชม. แล้วเราจะสามารถกระตุ้นยอดขายสินค้าจากลูกค้าเก่าได้อย่างไร?
พ่อค้าแม่ค้าสามารถใช้บริการเสริมของทาง Facebook (มีค่าใช้จ่าย) เช่น การส่งข้อความที่ได้รับการสนับสนุน (Sponsored Messaging) ซึ่งสามารถส่งข้อความไปหาลูกค้าได้นอกระยะเวลา 24 ชม. หลังจากเริ่มการสนทนา และข้อความก็สามารถเป็นข้อความส่งเสริมการขายได้ด้วยนะคะ ศึกษาเพิ่มเติม คลิก
ทีนี้ก็รู้ทั้งสาเหตุ และวิธีการป้องกันไม่ให้เพจของคุณโดนบล็อคกันแล้ว ซึ่งพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ทุกคนควรใส่ใจ และทำตามคำแนะนำ เพราะต้องขอบอกไว้เลยว่าการโดนบล็อกเพจมันจะทำให้คุณเสียเวลา และเสียรายได้เป็นอย่างมาก กว่าจะส่งเรื่องไปยัง facebook กว่าจะตั้งชื่อได้เหมือนเดิม แถมยังต้องสูญเสียคนติดตาม จำนวนไลค์ไปอีกด้วย ฉะนั้นอย่าทำสิ่งที่จะทำให้เพจโดนบล็อคจะดีที่สุดนะคะ ...
หากคุณสนใจใช้งาน Page365 คุณสามารถ สมัครใช้งานฟรี
หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เริ่มต้นกับ Page365 หรือ ทำไมเราถึงฟรี?